บัวที่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล ได้แก่
1. บัวหลวง มีลักษณะเป็นไม้โผล่เหนือน้ำ มีเหง้าใต้ดิน ใบมีรูปกลม ใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 15-40 ซม. สีเขียว และมีนวลเคลือบ ก้านใบชูเหนือนน้ำและมีหนามเล็ก ดอกมีหลายพันธ์ ทั้งดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน สีขาวหรือสีชมพู กลีบดอกใหญ่ห่องุ้ม กลางดอกมีฐานรังไข่และเกสรจำนวนมาก และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนเช้าหรือกลางคืน ก้านดอกยาวชูขึ้นเหนือน้ำและมีหนามเล็กๆ ออกดอกตลอดปี
2. บัวฝรั่ง ลักษณะเป็นไม้โผล่เหนือน้ำ มีหัวหรือเหง้าใต้ดิน ใบมีรูปกลม หนา สีเขียว ขอบเรียบ ก้านใบ ก้านดอกมักมีขนนุ่มปกคลุม ดอกลอยที่ผิวน้ำ ดอกบานคล้ายรูปถ้วยหรือค่อนวงกลม บานช่วงเช้าถึงบ่ายหรือเย็น มีหลายสีหลายพันธ์ เช่น สีขาว สีเหลือง สีแสด สีแดง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกดกในฤดูฝน
4. บัวเผื่อน มีลักษณะเป็นไม้โผล่เหนือน้ำ มีหัวเล็กอยู่ใต้ดิน ใบรูปเล็กไข่ ขอบใบเรียบ ดอกชูพ้นน้ำ บานคล้ายรูปถ้วย ขนาด 8-15 ซม. กลีบดอกซ้อน สีขาวอมครีม ไม่มีกลิ่นหอม บานตอนเช้า-เย็น ชอบออกดอกฤดูร้อน
5. บัวสาย บัวจงกลนี เป็นไม้ลอยน้ำ มีหัวใต้ดิน ใบรูปไข่ ขนาด 14-18 ซม. ขอบหยักเล็กน้อย ใต้ใบสีม่วงเรื่อ มีดอกลอยเหนือน้ำ กลีบดอกซ้อนกันแน่น ขนาด 15-18 ซม. สีชมพูอ่อน บานตั้งแต่เช้าจรดเย็น กลิ่นหอมอ่อนๆ ชอบออกดอกฤดูร้อน
6. บัวกระด้ง เป็นไม้โผล่เหนือน้ำ มีหัวขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน ใบรูปร่างกลมใหญ่กว่า 1 เมตร ขอบใบหยักตั้งขึ้นดูคล้ายกระด้ง ใต้ใบและก้านใบมีหนามแหลมปกคลุมมาก ดอกลอยเหนือน้ำ ขนาดใหญ่กว่า 30 ซม. สีชมพูอ่อน กลีบเลี้ยงด้านนอกมีหนามปกคลุม บานพลบค่ำถึงรุ่งเช้า มีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตลอดปี
บัวเจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียว หมั่นให้ธาตุอาหารให้เพียงพอ เลือกตำแหน่งที่มีแสงแดดไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน เลือกขนาดภาชนะที่พอเหมาะ ไม่เล็กจนเกินไป ควรหมั่นเด็นใบแก่ ใบเสีย ดอกที่โรย เพื่อป้องกันน้ำเสีย เลือกปุ๋ยสูตร 10 – 10 – 10 , 15 – 15 – 15 หรือ 16 – 16 – 16 ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ ฝังลงใต้ดิน ครั้งละ 1 ช้อนชา ทุก 1 – 2 เดือน หมั่นเติมน้ำให้เต็มสม่ำเสมอ ควรตัดเหง้าทิ้งบ้างเพื่อไม่ให้แน่นจนเกินไป