ดอกทิวาราตรี
ตระกูล Solanaceae
ชื่อสามัญ Day Cestrum
ถิ่นกำเนิด หมู่เกาะอินดีสตะวันตก
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 - 5 เมตร แตกกิ่งยืดยาวจำนวนมาก
เป็นไม้ดอกหอมสกุลเดียวกับราตรี
คนไทยรู้จัก กันมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี
ออกดอกดกส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ใบมีลักษณะรูปรีแกมใบหอก
ขอบ ใบเป็นคลื่น ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง
ดอกเล็ก มี 5 - 6 กลีบ ปลายกลีบม้วนออกกลิ่น
หอมตอนกลางวัน เมล็ดแก่เป็นสีดำซึ่งต่างจากราตรีที่เป็นสีขาว
สภาพการปลูก - ทิวาราตรี เป็นพรรณไม้ชอบ
แดดจัดหรือแดดเต็มวัน ชอบดินชุ่มชื้น ธาตุอาหารสมบูรณ์
การขยาย พันธุ์ - ขยายพันธุ์โดยการตอน และการปักชำกิ่ง
การตอนกิ่งควรใช้ วิธีปาดหรือกรีด ไม่ควรใช้วิธีควั่นกิ่ง
เพราะกิ่งเปราะหักง่าย
การดูแลรักษา - หมั่นตัดแต่งกิ่ง พรวนดินและใส่ปุ๋ย
กิ่งที่แตกใหม่จะแข็งแรง และจะทำให้ดอกดก
ต่อด้วย ดอกราตรี ครับเพื่อน
วงศ์ : solanaceae
ชื่อสามัญ : Night Jessamine
ชื่ออื่น ๆ : Lady of the Night ,ราตรี, หอมดึก
ข้อมูล ทั่วไปและประวัติ
ราตรีเป็นดอกไม้ ที่มีกลิ่นหอมในเวลากลางคืนเมื่อมีดอกมันจะส่งกลิ่นไปไกล กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป มีกลิ่นเย็นเรื่อย ๆ ทำให้ได้อีกชื่อหนึ่งว่า หอมดึก ส่วนมากนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะอินดีส
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ราตรีเป็น ไม้พุ่มขนาดย่อม ลำต้นมีเปลือกเป็นสีเทาอ่อน ๆ แตกกิ่งก้านสาขามาก พุ่มใบหนาต้นและใบมีกลิ่นเหม็นเขียวจัด ใบอ่อนบางรูปมนรี ปลายใบแหละโคนเรียวแหลม ขนาดใบยาวประมาณ 5-6 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อสีขาวอมเขียว ดอกมีขนาดเล็กและออกจับกลุ่มติดกันมากมายในช่อหนึ่ง ๆ ปลายดอกบานออกเป็นรูปดาว 5 แฉก ขนาดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 0.5 ซม. ยาวประมาณ 2 ซม. ดอกราตรีมีกลิ่นหอมจัดในเวลากลางคืน พอเช้าดอกที่บานจะหมดกลิ่นและจะหอมใหม่ในคืนต่อไป ออกดอกคราว ๆ หนึ่ง ประมาณ 5-7 วัน
การขยายพันธุ์
-การ ชำกิ่ง
-ตอนกิ่ง
การปลูก และการดูแลรักษา
-ราตรีในช่วงปักชำกิ่งหรือปลูกลงกระถางใหม่ ๆ ควรปลูกในที่ร่มรำไร หลังจากนั้นเมื่อตั้งตัวได้แล้วค่อยนำไปไว้กลางแจ้ง
-ราตรี ชอบดินชื้นและอยู่ได้ในสภาพค่อนข้างแฉะ
-ต้องการน้ำมาก
(ขอบ คุณข้อมูลจาก www.maipradabonline.com/
และภาพเพิ่มเติมจาก bloggang คุณไม้หอม,www.pck1.go.th )
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดยmanman